ผู้ติดตาม

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

Android 5.0 Key Lime Pie เตรียมเปิดตัวเดือนพ.ค.ปีหน้า


หลายท่านคงจะได้ยินข่าวเดี่ยวกับ Android เวอร์ชั่น 5.0 หรือโค้ดเนมว่า Key Lime Pie กันมาบ้างแล้วนะครับ และล่าสุดนี้มีการคาดการณ์ว่า Android KLP นี้จะเปิดตัวในงาน Google I/O ในเดือนพฤษภาคมปี 2556 นี้
งาน Google I/O ปี 2556 นั้นจะจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ Moscone Convention Center ณ ซาน ฟรานซิสโก, ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหวังว่าเราจะได้เห็นของเล่นใหม่ๆ จากยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีในปีหน้านะครับ แล้วคุณผู้อ่านคิดว่าจะมีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้ลองเล่นกันบ้าง :D

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 อันดับ app android ยอดนิยม บน google play ปี 2012



 
10.  Adobe Flash Player 11

UploadImage

อันดับที่ 10 ได้แก่ Adobe Flash Player 11 มาเริ่มต้นด้วยจุดเด่นของเจ้าหุ่นเขียวที่ ios ไม่มีนั้นก็คือ "Adobe Flash Player 11" สามารถเล่น เกมส์ต่างๆบน เว็บได้เลย หรือ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง สะดวกสุดๆ งานนี้แฟนๆ apple คอตกเป็นแถบ เพราะไม่สนับสนุนครับบบ





9.  Youtube

UploadImage

อันดับที่ 9 ได้แก่ Youtube มาถึงอันดับที่ 9 ของการจัดอันดับแล้วนะครับ ได้แก่ "Youtube" แน่นอนครับหลายๆคนชอบเข้าไปค้นหา vdo clip ดูแก้เซ็ง ดูทั้งวันทั้งคืน (ทั้งชาติ)ก้ไม่หมด เจ้า app Youtube ช่วยให้ชีวิตแฟนๆ toptenthailand ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียวครับ





8.  Instagram

UploadImage

อันดับที่ 8 ได้แก่ Instagram หลังจากโด่งดังจนพลุแตกมาแล้วบน ios มาถึงคราวลง บนเจ้าหุ่นเขียวกัน ปรากฏว่าผลตอบรับทางฝั่งเจ้าหุ่นนี้ดีมากมาย แต่กลับกัน ทางฝั่งคู่แข่งดันตกฮวบๆๆ (ความเป็น private มันลดลง ) แต่ยังไงโดยรวมมันก็ยังมีคนเล่นเยอะอยู่ดีนั้นแหละ






7.  Google Search

UploadImage

อันดับที่ 7 ได้แก่ Google Search การที่เราจะหาข้อมูลซักครั้ง webแรกที่คุณจะนึกถึงคืออะไรละ ?? แน่นอนสำหรับทุกคน(รวมถึง ทีมงาน toptemnthailannd) ต้องถึงถึง "google" และก็ต้องเข้าไปที่เบราเซอร์ กว่าจะเข้าได้บางทีก็รู้คำตอบไปซะแล้ว ดังนั้นการที่เรามี "Google Search" ติดเครื่องไว้ทำให้สะดวกขึ้นเป็นกอง






6.  Google Maps

UploadImage

อันดับที่ 6 ได้แก่ Google Maps map ฟรีๆจาก google มาลงเป็นใน android (ลืมได้ไงเล่า) เอาไว้ใช้ในการเดินทางสำหรับแฟนๆ toptenthailand ที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด หรือสถานที่ๆไม่เคยไปมาก่อน แค่จิ้มๆก็ถึงจุดหมายได้อย่างทันเวลา และประหยัด(หลงก็เปลืองน้ำมัน) ไปได้โข






5.  WhatsApp

UploadImage

อันดับที่ 5 ได้แก่ WhatsApp อยู่มานานรั้งอันดับไว้อย่างเหนียวแน่นไม่ยอมไปไหนกันเลยทีเดียว สำหรับ "WhatsApp" เชื่อมกับเบอร์โทรง่ายๆ เป็นที่มาของการขอเบอร์เนียนๆของหนุ่มๆ "ขอWhatsApp หน่อยครับ " แค่นี้ก็ได้เบอร์มาแว้วววว (ทีมงาน toptenthailand ไม่เคยทำนะครับ ฮาฮา) แล้วแบบนี้จะไม่ฮิตได้ไงละฮาฟฟฟ







4.  Gmail

UploadImage

อันดับที่ 4 ได้แก่ Gmail ไม่พลาดแน่นอนสำหรับ app "Gmail" ใครๆก็อยากจะใช้ เพราะเมลล์ google (ไม่งกเนื้อที่) มีระบบที่ดีมาก การป้องกันภัยก็ดี แถมคนส่วนใหญ่ไม่อยากพลาดเมลล์ที่สำคัญสำหรับงานของพวกเขา ดังนั้น "Gmail" จึงไม่พลาดที่จะขึ้นมาติดอันดับกับเรา 








3.   Google Maps Street View

UploadImage

อันดับที่ 3 ได้แก่ Google Maps Street View แน่ละใช้ os ของ google ทั้งที ก็ต้องใช้ของดีๆจากเขาด้วยนั้นก็คือ Google Maps Street View จากฟังก์ชั่นบนคอมพิมเตอร์ถูก เอาลงมาใช้ใน smart phone ใครกลัวหลงต้องรีบๆไปหามาใช้กันนะครับสะดวกมากมาย







2.  Line

UploadImage

อันดับที่ 2 ได้แก่ Line อีกหนึ่งแอ็ปที่เข้ามาติดในการจัดอันดับ toptenthailand ของเรา social network อีกตัวที่แทบจะเข้ามาแทนที่ "ว๊อด แอป" อย่างเต็มตัวเพราะด้วย sticker ต่างๆที่สุดแสนจะน่ารัก 






1.  Facebook for android

UploadImage

อันดับที่ 1 ได้แก่ Facebook for android แน่นอนแหละครับ คนที่ใช้งาน smart phone เกือบทั้งหมด ก้ซื้อเพื่อมาเล่น facebook (ไปในตัว) ทีมงาน toptenthailand ไม่แปลกใจจริงๆที่เจ้า "Facebook " จะเข้ามาที่ 1





แอนดรอยด์ 4.1 Jelly Bean เร็วขึ้น ลื่นขึ้น ระบบสั่งด้วยเสียงใหม่ คีย์บอร์ดไทย



เป็นไปตามความคาดหมาย หลังจากที่มีข่าวว่ากูเกิลจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นใหม่ในรหัส 4.1 โค้ดเนม Jelly Bean คีย์โน้ตในงาน Google I/O ได้เปิดตัว Jelly Bean อย่างเป็นทางการพร้อมกับเผยฟีเจอร์ทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว
สิ่งที่กูเกิลพูดถึงเป็นอย่างแรกสุดของ Jelly Bean คือการพัฒนาแอนดรอยด์ที่ถูกล้อมานานว่าเป็นระบบปฏิบัติการอืดๆ ให้ลื่นไหลกว่าที่เคยเป็นด้วย Project Butter
Project Butter ประกอบด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งานแอนดรอยด์นั้นลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็นด้วยการขยายการล็อกเฟรมเรต vsync ไปทั้งแอนดรอยด์ ให้การใช้งานลื่นไหลอย่างต่อเนื่องกันทั้งระบบ พร้อมเพิ่มท่อบัฟเฟอสำหรับการประมวลผลกราฟิกเป็นสามเท่าตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกโดยตรง สิ่งที่เห็นได้ชัดคืออินเทอร์เฟซที่ไว ลื่นไหล ตอบสนองการใช้งานดีขึ้น
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น กูเกิลเลยเอากล้องมาจับภาพความแตกต่างระหว่าง ICS กับ Jelly Bean ให้ดูกันเลยว่าความลื่นของ      อินเทอร์เฟซมันต่างชั้นกันแค่ไหน :P

ปรับปรุงฟีเจอร์ของแอนดรอยด์
  • ระบบจัดการวิดเจ็ตใหม่ ที่สามารถย่อขยายวิดเจ็ตทับไอคอนอื่นได้ โดยระบบจะย้ายไอคอนหลบให้เอง หรือย่อขนาดวิดเจ็ตอัตโนมัติถ้าพื้นที่มีไม่พอ
  • คีย์บอร์ดของ Jelly Bean สามารถคาดเดาคำถัดไปที่เราจะพิมพ์ได้แล้ว (Predictive Keyboard) ถ้านึกภาพไม่ออก ให้นึกถึง SwiftKey
  • Offine Voice Typing พิมพ์ข้อความด้วยเสียงโดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว
  • เพิ่มคีย์บอร์ดมาอีกหลายภาษา และมีภาษาไทยมาด้วย! 
  • รองรับการอินพุทข้อมูลจากภาษาเบรลล์ (ตัวอักษรสำหรับผู้พิการทางสายตา)
  • อินเทอร์เฟซกล้องใหม่ที่สามารถปัดไปทางซ้าย เพื่อเข้าไปดูภาพก่อนหน้าได้
  • เพิ่มความสามารถ Android Beam ให้สามารถแพร์อุปกรณ์ไร้สายที่ใช้บลูทูธ ด้วย NFC ได้ด้วยการแตะกับตัวเครื่อง
  • ปรับปรุง notification ให้แสดงผลได้มากขึ้น สามารถกดไลค์เฟซบุ๊ก กด +1 Google+ หรือยัด Pulse เข้าไปไว้ใน notification bar ได้ (หรือนี่คือมิติใหม่ของการทำแอพ ?)
ระบบค้นหาปรับปรุงใหม่ คอร์หลักของกูเกิลแต่ดั้งเดิม ทำให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นอีกขั้น
  • ระบบค้นหาใหม่ที่ใช้ Knowledge Graph ช่วยจัดข้อมูลให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น แสดงผลข้อมูลตามประเภทของข้อมูลที่ต่างกันไป
  • ระบบค้นหาด้วยเสียงใหม่ อารมณ์เหมือนกับ Siri, S Voice
  • Google Now ระบบที่เหนือขึ้นไปกว่าการแค่ตอบคำถามด้วยการบอกสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการด้วยข้อมูลของผู้ใช้เอง เช่นบอกข้อมูลจราจรในยามเช้าของการทำงาน บอกสายรถเมล์ แนะนำร้านกาแฟ สายการบิน และแจ้งเตือนนัดหมาย ฯลฯ
แอนดรอยด์ Jelly Bean ปล่อยอัพเดตให้กับ Galaxy Nexus, Nexus S และ Motorola XOOM ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ครับ ใครถืออยู่ก็เตรียมรับ OTA ได้เลย
ส่วนที่เหลือเป็นของนักพัฒนาครับ อย่างแรกคือ SDK ของ Jelly Bean นั้นปล่อยให้โหลดได้แล้ววันนี้ (ยังเป็นตัว preview อยู่)
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ กูเกิลได้ปล่อย PDK (Platform Developer Kit) เครื่องมือสำหรับช่วยผู้ผลิตฮาร์ดแวร์พอร์ตแอนดรอยด์ให้ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเปิดให้พาร์ทเนอร์ได้ใช้ก่อนแอนดรอยด์รุ่นใหม่จะเปิดตัวราว 2-3 เดือนครับ
กูเกิลบอกว่า PDK ของ Jelly Bean ถูกส่งให้กับพาร์ทเนอร์หลายรายแล้ว แปลว่าอัพเดตครั้งใหม่นี้น่าจะไม่ใช้เวลานานแล้วล่ะ (มั้ง)
ข่าวดีอีกเรื่องคือ C2DM (Android Cloud to Device Messaging) ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น GCM (Google Cloud Messaging for Android) และเปิดให้ใช้งานได้ฟรีแล้ว
อ่านรายละเอียดสำหรับนักพัฒนาแบบเต็มๆ ได้ที่นี่ ครับ
ปิดท้ายกันด้วยสถิติเล็กๆ ของแอนดรอยด์ระหว่างคีย์โน้ตด้วยยอดเปิดเครื่องที่เพิ่มขึ้นไปเป็น 1 ล้านเครื่องต่อวันแล้ว เพิ่มขึ้นจากงานเมื่อปีที่แล้วที่มีเพียง 400,000 เครื่องเท่านั้น

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

วิวัฒนาการของ แอนดรอยด์ (Android)




แอนดรอยด์ (Android)  






                     เริ่มพัฒนาเมื่อปี พ.ศ.2550 โดยบริษัท แอนดรอยด์ร่วมกับ Google จาก

นั้นเมื่อปี พ.ศ. 2550ได้มีการร่วมมือกันกว่า 30 บริษัทชั้นนำเพื่อพัฒนาระบบโดยใช้ชื่อ

กลุ่มว่า OHA (Open Handset Alliance) โดยแบ่งออกเป็นเวอร์ชั่น และมีชื่อเรียกแต่ละ

เวอร์ชั่นเป็นชื่อขนมหวานเรียงลำดับตามตัวอักษร A-Z เรามาดูไปทีละเวอร์ชั่นของ แอน

ดรอยด์ว่ามีวิวัฒนาการเป็นอย่างไรและปัจจุบัน มันไปถึงเวอร์ชั่นอะไรแล้ว

แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 1.0 ในรุ่นนี้ยังไม่มีชื่อเล่น (หากมีชื่อเล่น จะต้องขึ้นต้นด้วยตัว

อักษร A)ออกตัวเมื่อวันที่ พฤศจิกายน พ.ศ.2550

แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 1.1 ในรุ่นนี้ยังไม่มีชื่อเล่น (หากมีชื่อเล่นจะต้องขึ้นต้นด้วยตัว

อักษร B)ออกตัวเมื่อวันที่ กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 เป็นรุ่นที่พัฒนาแก้ไขบั๊ก (Bug) 

ของเวอร์ชั่นก่อนหน้า

 แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 1.5 ในรุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า คัพเค้ก (Cupcake) 

เปิดตัวเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2552 เป็นรุ่นที่ถูกนำมาผลิตเพื่อการค้าอย่างเต็มรูป

แบบ






แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 1.6 ในรุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า โดนัท (Donut) 

ออกตัวเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2552 มีการปรับปรุงแก้ไขข้กบกพร่องของเวอร์ชั่น 1.5

มีโทรศัพท์หลายรุ่นที่ได้นำมาใช้ โดยแอนดรอยด์เวอร์ชั่นนี้สามารถจัดให้มีการอัพเกร

ออนไลน์ (Over The Air : OTA)






แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.0 ในรุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า อีเคร์ (Eclair) แปลว่า ขนมหวานรูปยาว

มีคริมข้างในออกตัวเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2552



  
 




แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.2 ในรุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า โฟรโย่ (Froyo) แปลว่าโยเกิร์ตแช่แข็ง

(Froyo - Frozen yogurt)ออกตัวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2553 





แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.3 ในรุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า จิงเกอร์เบรด (Gingerbread)   

เจ้าขนมปังขิงออกตัวเมื่อวันที่ ธันวาคม พ.ศ.2553 เป็นรุ่นที่ถือได้ว่ามีการนำมาใช้งาน

ในโทรศัพท์มือถือมากที่สุดความสามารถที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้จะพิเศษที่ระบบการ

สื่อสารแบบใหม่ชื่อเรียกว่า Near Field Communication (NFC)เป็นระบบการจ่ายเงินผ่าน

โทรศัพท์ได้ โดยที่โทรศัพท์ต้องมีอุปกรณ์ที่รองรับระบบ NFC ด้วย






แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 3.0 ในรุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า ฮันนี่คอม (Honeycomb) รังผึ้ง 

ออกตัวเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นนี้ถูกพัฒนาเพื่อใช้กับ 

Tablet 








แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 4.0 ในรุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า ไอศรีมแซนวิช (ICS : Ice Cream 

Sandwich)

ออกตัวเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2554 เวอร์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ทั้งในโทรศัพท์ 

และแท็บเล็ตทำให้บริษัทผู้ผลิตเตรียมอัพเกรดอุปรณ์ของตนเองเพื่อให้สามารถใช้งาน

เวอร์ชั่นนี้ได้)






แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 4.1 ในรุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า เจลลี่บีน (JB : Jelly Bean) 

เวอร์ชั่นนี้จะเน้นเพิ่มความสามารถทางด้านความเร็วเป็นหลักเพราะแอนดรอยด์ชอบโดน

ดูถูกเรื่องความ อืด ความช้า เมื่อเทียบกับ IOS ในเวอร์ชั่นนี้เน้น ที่ความเร็วไหลลื่นให้ผู้

ใช้ไม่มีสะดุด ด้วยเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า V-Sync adaptations และ triple buffering

จะนำคุณเข้าสู่ประสบการณ์การเรนเดอร์หน้าจอระดับ 60 เฟรมต่อวินาที (FPS) 





                 พอพูดถึงระบบปฎิบัติการแอนดรอย ก็ต้องกล่าวถึงสมาร์ทโฟนเลือดไทยอย่าง iMobile

ที่ตอนนี้เพิ่งเปิดตัว สมาร์ทโฟนใหม่ภายใต้ชื่อ "IQ-Series" ซึ่งออกมาแบบช๊อควงการที่เดียว 3 ตัว 

ได้แก่ IQ1 IQ2 และ IQ5 ที่งานนี้มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการแอนดรอย 4.0 ICS ที่ต้องบอกว่าเป็น

สมาร์ทโฟนที่ตอนนี้ไม่ว่า รีวิวไหนก็ยังชื่นชมกับสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา แต่สเปคครบเครื่องและหน้า

จอใหญ่สะใจ 4.5 นิ้ว และ 5 นิ้ว พร้อมกับกล้องหลังที่จัดหนัก 8 ล้านพิกเซลกันเลยทีเดีย




วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

App Android แนะนำแอพพลิเคชั่นแอนดรอยด์


           จอดป้ายหน้า เที่ยว กทม ไม่ต้องกลัวหลง



                                                                                       



               จอดป้ายหน้า เป็น App สำหรับกรุงเทพที่ใช้รถเมล์ครับ ความสามารถตรงใจผมจริงๆ
ซื้อใช้รถเมล์เป็นประจำ ส่วนตัวชอบ app นี้มากครับ

มาเที่ยว กทม ไม่ต้องกลัวหลง หรือ
จะเดินทางก็ไม่ต้องกังวลใจกับสายรถเมล์อีกต่อไป

มาเที่ยว กทม ไม่ต้องกลัวหลง
หรือคน กทม จะเดินทางก็ไม่ต้องกังวลใจกับสายรถเมล์อีกต่อไป
เพราะ apllication "จอดป้ายหน้า" ได้รวบรวมสายรถเมล์ทั้งหมดใน กทม พร้อมให้ทุกๆคนสามารถ ค้นหาสายรถเมล์ได้อย่างสะดวก

โดยการทำงานของ App ประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ
1. การป้อนสายรถเมล์ลงใน App เพื่อให้ App แสดงสถานที่ที่รถเมล์สายนั้นๆจะวิ่งผ่าน
2. การป้อนจุดหมายของการเดินทาง เพื่อให้ App แสดงสายรถเมล์ทั้งหมดที่ผ่านสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับการใช้ App จอดป้ายหน้านะครับ :)

ปล สายรถเมล์ทั้งหมดในโปรแกรมนี้ผู้พัฒนาได้อ้างอิงตามเว็บของ ขสมก อาจจะมีบางสายที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ผู้ที่พบเห็นหรือต้องการให้เพิ่มสายรถเมล์สามารถติดต่อได้ที่ส่งข้อมูลถึงผู้พัฒนาได้เลยนะครับ



                                      



                                     








             ES File Explorer โปรแกรมจัดการไฟล์สุดแหล่ม




  ES file Manager ก็เป็นโปรแกรมจัดการไฟล์ในเครื่อง ธรรมดาๆที่ไม่ธรรมดาครับ
เป็นFree APP ครับโหลดได้ใน Market Search คำว่า EStrong ได้เลยครับเลยครับไม่มี Version Pro แต่อย่างใดมีเพียงน้ำใจที่จะ Donate ให้ผู้พัฒนาโปรแกรมครับ

หลังจากลงเสร็จแล้ว
 

เราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า ผมจะมาคุ้ยแคะแกะเกา ลอกคราบเครื่องเครา เจ้า ES File Manager กัน {:4_140:}
 

เปิดโปรแกรมมาก็จะเจอว่าเป็นโปรแกรมจัดการไฟล์ธรรมดาๆ ครับ ด้านบนสุด เลือกได้ครับว่า จะจัดการอะไรบ้าง (ผมว่าครบเครื่องดีนะ)
 
1. Local (ก็โทรศัพท์เราเนี่ยแหละ)
2. LAN (ก็จัดการไฟล์ ของเครื่องที่เราแชร์ไฟล์ในวง LAN กับมือถือเราครับ)
3. FTP (ก็โอนไฟล์ ไปมากับ FTP Server ครับ)
4. Bluetooth (ก็จัดการไฟล์กับเครื่องที่เราคอนเน็คอยู่ครับ)

device.png
 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 

แถวที่สองก็จะเป็นตัวจัดการครับ
 
1. ปุ่มแรกสุด ก็ใช้กลับไป part แรกสุด กับหน้า home (หน้า home เราตั้งได้ว่าจะเอา path ไหนเป็น home ก็ได้ครับ)
2. Multiple กดเพื่อเลือกไฟล์ หลายๆ ไฟล์ครับ
3. search ใช้ค้นหาไฟล์ประเภทต่างๆ ภายในเครื่องครับ มีอยู่ 4-5 กลุ่มมั๊ง ลองอ่านดูนะครับ
4. Up ก็ย้อนกับไป Directory บน
5. help ไว้อธิบาย ไอคอนต่างๆว่ามีความหมายว่าอะไรครับ
6. view ไว้เลือกว่าจะให้แสดงแบบไหนครับ

ส่วนที่ 3 ก็โชว์พวกไฟล์ต่างๆ
 

ส่วนที่ 4 กดเมนู จะมีเมนูขึ้นมาครับ
 
1. operation ก็คำสั่งจัดการต่างๆ copy cut selectall ตรงนี้จะมีคำสั่ง set as home อยู่ ที่บอกว่าเอาไว้ตั้ง path ของหน้า home ได้ ตอนแรกครับ

device2.png
 

2. New ถ้าเราอยู่ Tab Local ก็ไว้เพิ่ม file folder search ถ้าอยู่ Tab LAN ก็ไว้เพิ่ม server
 

device3.png
 

3. Manager เอาไว้จัดการต่างๆ 


device4.png
 

3.1 Task Manager ต้องลงโปรแกรม 
ES Task Manager ด้วยครับ ไว้จัดการ Task ครับ (ไว้จะรีวิวละเอียดอีกทีหลังนะครับ)
3.2 App Manager ก็เอาไว้จัดการ App ครับ พอเรากดค้างที่ App จะมีเมนูมาให้เลือกครับ สามารถ Backup APP กลับไปเป็น .apk ได้ครับ
3.3 Security Manager ตัวนี้ต้องลงโปรแกรม ES Security Manager เพิ่มครับ เอาไว้ Lock โฟลเดอร์ส่วนตัวครับ (ไว้จะรีวิวละเอียดอีกทีนะครับ)
3.4 SD Card Analysis ก็เอาไว้ดูดีเทลล์ใน SD Card ครับ ดูเองละกัน

4. Hide Tab เอาไว้ซ่อน ไอคอนแถวแรกให้เล็กลง จะได้ไม่เกะกะ
 

5. Setting อันนี้เยอะ ครับตั้งได้ละเีอียดมาก 


device6.png
 
device7.png
 

5.1 Theme Setting ตั้ง Theme ได้ครับมี 2 ตีม กับเลือกสีของ Default 

5.2 Layout Setting แต่ง Layout พวกแสดงปุ่ม ซ่อนปุ่มต่างๆ บางอันไม่ใช้ก็ซ่อนซะ
5.3 Files Setting ไว้ตั้งค่าไฟล์ มีตั้งค่า ให้แสดงรูป preview ด้วย

5.4 View setting ก็ตั้งพวกมุมมอง view size sort
 
5.5 Directory Setting ตั้งค่า path ต่างๆ Home อยู่ที่ไหน หรือ Backup ไฟล์ไว้ที่ไหน
5.6 Bluetooth Options ก็ตั้งค่าพวก Bluetooth ต่างๆ
5.7 Root Options ส่วนเสริมเฉพาะเครื่องที่ Root แล้ว

6 More ก็คำสั่งที่เหลือๆ เอาเฉพาะส่วนที่น่าสนใจนะครับ (เริ่มง่วง และขี้เกียจละ {:4_102:} )
 

device5.png
 

6.1 
Donate ถ้าเห็นว่าโปรแกรมดีก็ให้กำลังใจคนพัฒนาโปรแกรมด้วยนะครับ
6.2 Filp Orientation ก็ไว้พลิกจอแนวตั้งแนวนอนครับ
6.3 Bookmark เอาไว้เปิด Bookmark ที่เราได้ทำไว้

ส่วนการใช้งานเพิ่มเติม ไฟล์ Local {:4_101:} 


1. 
การ Zip file ให้เรากดค้างที่ file หรือ folder ที่เราต้องการจะมีเมนูขึ้นมาเลือก Compress ได้เลยครับ
2. การแตก Zip file กดค้างที่ Zip file แล้วเลือก Extract to..
3. กดค้างที่ไฟล์ แล้วเลือก send ก็เลือกส่งไฟล์ไปที่ Email หรือ Blutooth ได้เลยครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 

ส่วนการใช้งาน LAN กับ FTP นะครับ {:4_114:} 


เพิ่ม Server ครับ ให้คลิกเมนูแล้วเลือก New server ครับ
 

device10.png
 

ใส่ IP หรือ Host name เครื่องที่แชร์นะครับ
 
แล้วใส่ User Password ถ้าอยู่บน Domain ก็ใส่ hostname@domain.com นะครับ <--- ยากไป PM มาถามได้นะครับ {:4_92:}
เพิ่มแล้วจะได้ดังรูป

device9.png
 

พอคลิกเข้าไปจะเห็นไฟล์ต่างๆ ที่เราแชร์ไว้ครับ เราก็ ก๊อปปี้ หรือวาง กลับไปกลับมา กับ Local ได้เลยครับ
 

device8.png


ส่วน Bluetooth ต้องดูว่าอุปกรณ์นั้น มี Service ส่วน Files Sharing รึเปล่า ถ้ามีก็ลุยเลยครับ จะหน้าตาประมาณนี้
 

device11.png